วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2550

Crying out love in the center of the world

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกคะ.....
ทำออกมาหลายเวอร์ชั่นมาก แต่ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นไหนก็ขายดี
เราอุดหนุนทุกเวอร์ชั่น +555


" พร่ำหัวใจเพรียกหารักที่กลางโลก " .... (世界の中心で、愛を叫ぶ。)



การหายตัวไปของคู่หมั้น คือ ริทซึโกะ สร้างความสงสัยให้กับซากุทาโร่เป็นยิ่งนัก ดังนั้นเขาจึงเร่งรุดเดินทางไปยังเมืองชิโกกุเพื่อตามหาเธอ ซึ่งที่นี่เองครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดเริ่มต้นในรักครั้งแรกของเขากับ อากิ เพื่อนร่วมชั้นเรียน การกลับมาในครั้งนี้ของเขาทำให้ภาพความหลังเมื่อ 17 ปีก่อนย้อนคืนกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะร้านถ่ายรูปที่ติดรูปของเขาและเธอในชุดแต่งงาน ซึ่งนั่นทำให้เขาได้มีโอกาสเดินทางผ่านความทรงจำกลับไปยังอดีตกาลของเขาและเธอเมื่อครั้งที่ทั้งคู่มีอายุเพียง 16 ปี เวลานั้นซากุทาโร่แอบหลงรักอากิผู้เป็นดาวเด่นของห้องซึ่งสวมบทเป็นนางเอกในละครเวทีของโรงเรียนเรื่องโรมิโอกับจูเลียต โดยมีเด็กชายอีกคนหนึ่งสวมบทเป็นโรมิโอแต่อากิกลับชอบที่จะเรียกซากุทาโร่ว่าโรมิโอมากกว่าเด็กชายคนนั้น ในเวลาไม่นานนักทั้งคู่ต่างก็ตกหลุมรักซึ่งกันและกัน หากพ่อแม่ของทั้งคู่กลับไม่เห็นชอบด้วยและห้ามมิให้พวกเขาติดต่อกันรวมไปถึงการใช้โทรศัพท์ ดังนั้นอากิจึงต้องบันทึกข้อความของตนลงในเทปและให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งนำไปส่งมอบให้กับซากุทาโร่
ความรักของทั้งคู่ค่อย ๆ ผลิบานขึ้น ครั้งหนึ่งทั้งสองมีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพังบนเกาะร้างทำให้อากิได้รู้ว่าตัวเองกำลังป่วยเป็นโรคลูคีเมียและได้บอกกับซากุทาโร่ถึงความฝันของเธอว่าสักวันหนึ่งเธอจะเดินทางไปยังเมืองอูลูลูในออสเตรเลียให้ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ซากุทาโร่จึงพยายามที่จะทำความฝันของเธอให้กลายเป็นความจริงด้วยการพาเธอไปถ่ายรูปเพื่อที่จะทำพาสสปอร์ต แต่กลับได้มาเป็นรูปแต่งงานของทั้งคู่แทน หลังจากนั้นทั้งสองก็พากันไปขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางไปยังออสเตรเลียแต่กลับมีพายุเข้ามาเป็นอุปสรรคทำให้เที่ยวบินนั้นจำต้องถูกยกเลิก ในขณะที่อาการป่วยของอากิกำลังทวีความรุนแรงขึ้นหากแม้ในระหว่างที่กำลังอยู่ในโรงพยาบาลอากิก็ยังคงส่งเทปบันทึกเสียงให้กับเขาอยู่เสมอ ๆแต่แล้วจู่ ๆ เทปม้วนสุดท้ายของเธอก็ได้หายไปเสียเฉย ๆ เวลาผ่านไป 17 ปี เทปม้วนสุดท้ายของอากิที่สูญหายไปเป็นเวลานานแสนนานกำลังจะเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางของมันแล้ว
อันนี้เป็นหนัง มาดูหนังสือกันบ้าง


" อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก " เป็นวรรณกรรมละเมียดละไมแห่งรัก ของคนที่ได้มาพบกันในช่วงหนึ่งแล้วก่อกำเนิดรักแท้ที่สร้างความประทับใจเนิ่นนานให้ผู้อ่าน จนทำให้เป็นหนังสือขายดีของญี่ปุ่นมาแล้ว มาพบกับเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวที่มาพบพานและผูกพันอย่างลึกซึ้ง หากแต่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ แต่เก็บความคิดถึงไว้ในความทรงจำตลอดไป นวนิยายที่มียอดขายถึง 4 ล้านเล่มในญี่ปุ่น ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และละครยอดฮิต กับเรื่องราวที่คุณจะประทับใจมิรู้ลืมได้ในนี้
ละครคะ......
ละครญี่ปุ่น : อยากกู่ร้อง บอกรัก...ให้ก้องโลก
Japanese Drama : Sekai No Chushin De, Ai Wo Sakebu

"รักไม่มีวันตาย" คำๆ นี้คุณอาจค้นหาได้จากละครโทรทัศน์ญี่ปุ่นเรื่อง Sekai No Chuushin De, Ai Wo Sakebu แม้เวลาจะผ่านมานานเท่าไร ความรักที่มีต่อคนรักที่จากไปก็ยังคงอยู่ในใจเสมอมา... Sekai No Chuushin De, Ai Wo Sakebu เป็นเรื่องของ มัตซึโมโตะ ซากุทาโร่ ชายวัย 34 ปี ในปี ค.ศ. 2004 ที่ยังคงมีความทรงจำความรักครั้งแรกของเขาเมื่อ 17 ปีก่อน มันความรักที่มิอาจลบเลือนจากในชีวิตของเขาได้ ซากุทาโร่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้พกขวดแก้วใบเล็กที่บรรจุอัฐิของแฟนสาว ฮิโรเสะ อากิ ที่เสียชีวิตจากไปด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาวเมื่อ 17 ปีที่แล้ว หวังไว้ว่าหากวันใดที่เขาสิ้นลมจักขอให้อัฐิของเขามารวมกับอัฐิของเธอและล่องลอยไปกับสายลมด้วยกัน ความทรงจำที่มิอาจลืมเลือนทำให้การใช้ชีวิตของ ซากุทาโร่ ยังคงมี อากิ อยู่ในใจและคิดถึงแต่เธอผู้เดียวเสมอมาถึงแม้ว่าเขาจะมีคนรักใหม่อย่าง โคบายาชิ อากิ(34 ปี) แล้วก็ตาม ซากุทาโร่ ได้มีโอกาสย้อนกลับไปที่บ้านเกิดของเขา หลังจากที่ได้รับโปสการ์ดจากอาจารย์ประจำชั้น ยาตะเบะ เทชิมิ ซึ่งส่งมาแจ้งให้เขาทราบว่าจะมีการทุบตึกโรงเรียนเก่าทิ้ง ซากุทาโร่ จึงได้กลับไปที่นั่น พร้อมกับการย้อนกลับไปนึกถึงภาพในอดีตครั้นที่ ความรักครั้งแรกอันบริสุทธิ์ของเขากับ ฮิโรเสะ อากิ ได้ผลิบานขึ้นและทั้งคู่ต้องทุกข์ทนและหวาดกลัวกับการพลัดพรากจากกันไป... การดำเนินในละครเรื่องนี้เป็นแนวอดีตและปัจจุบันสลับกันไป ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1987 ความรักของ มัตทซึโมโตะ ซากุทาโร่ และ ฮิโรเสะ อากิ ได้เริ่มขึ้น ในสมัยนั้น ฮิโรเสะ อากิ เป็นเด็กนักเรียนดีเด่น น่ารัก และเป็นนักวิ่งกีฑาชื่อดังในโรงเรียน เธอเป็นสาวที่เพรียกพร้อมทุกอย่าง อากิ จึงเป็นหมายปองของนักเรียนหนุ่มในโรงเรียนหลายคนรวมทั้ง ซากุทาโร่ ด้วย ซากุทาโร่ และ อากิ ได้เริ่มมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันหลังจากที่ ซากุทาโร่ ได้กางร่มกันฝนให้กับ อากิ เพื่อกล่าวคำไว้อาลัยในงานศพอาจารย์ ในสมัยนั้นทั้งคู่ได้ฟังรายการวิทยุเหมือนกัน ประกอบกับ อากิ ได้ใช้ อัดเทปเสียงตัวเองและใช้เซาว์เบ๊าท์ เป็นเครื่องมือสื่อสารบอกความในใจของเธอให้กับ ซากุทาโร่ ได้ฟัง ดูเป็นความรักสดใสของหนุ่มสาวคู่นี้ เวลามีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจก็จะให้กำลังใจและช่วยเหลือกันและกัน ถึงแม้ว่าฝ่ายพ่อของ อากิ จะปิดกั้นมิให้ทั้งคู่คบกันเพราะเขาหวังที่จะให้อากิได้เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ ทั้งคู่ก็ยังคบกันอยู่แบบมิให้พ่อได้ล่วงรู้ อากิ เริ่มมีอาการไม่สบายวิงเวียนจะเป็นลมเป็นบางครั้งแต่ยังไม่หนักหนาอะไรมาก ซากุทาโร่ ได้นัดกับอากิ จะไปเที่ยวเกาะแห่งหนึ่งกันในช่วงวันหยุดแต่ อากิไม่สบาย อย่างไรก็ตามเธอก็หนีพ่อและแม่ออกจากบ้านมาเที่ยวกับซากุ ถึงแม้ร่างกายจะไม่แข็งแรงก็ตาม ซากุทาโร่และอากิ ได้เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ทั้งคู่ได้ค้างคืนอยู่ที่เกาะแห่งนั้นจนถึงรุ่งเช้า จนกระทั่งอากิ เป็นลมหมดสติลงจึงต้องรีบพาเธอกลับเข้าฝั่งด่วน ตอนนั้นพ่อของอากิมารับอากิที่หมดสติ เขาโมโหมากจึงชก ซากุทาโร่ ที่พาลูกสาวเธอออกไปเที่ยวแบบนั้น จากอาการหมดสติในครั้งนั้น อากิ ต้องพักฟื้นดูอาการอยู่ในโรงพยาบาล จนกระทั่งล่วงรู้ว่าตัวเธอเองเป็นโรคลูคิเมีย(โรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว) ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่สามารถรักษาได้และต้องรอแต่ความตายที่เป็นมัจจุราชมาพลัดพากให้เธอและซากุทาโร่จากกัน ซากุทาโร่ และทุกคนต่างก็ทำใจไม่ได้ที่อากิจะต้องจากเขาไป อากิ มีโอกาสได้พบกับชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่เป็นโรคลูคิเมียระยะขั้นสุดท้าย เขาได้วาดรูปหญิงสาวที่อยู่ในต้นไม้และมอบให้กับเธอก่อนเสียชีวิตลง อากิ ได้รับหนังสือเล่มหนึ่งแนะนำ อลิซ สปริงส์ (สถานที่แห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย ที่มีพื้นทรายสีฝุ่นแดงทั่วไปหมด และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนที่มีจิตใจบริสุทธ์โดยเป็นดินแดนที่มี โอลกัส/คาต้า จูต้าและเอเยอร์ร็อค/อูลูรู ที่ชนพื้นเมืองชาวอะบอริจิ้นส์สักการะ) ซากุทาโร่ รู้สึกทุกข์ใจที่อากิ จะจากเขาไปในไม่ช้า เขาจึงขอ อากิ แต่งงานและสัญญาไว้ว่าเขาจะพา อากิ เป็นท่องแดนอลิซ สปริงส์ ให้ได้ ทั้งคู่ได้สวมใส่ชุดแต่งงานพร้อมทั้งถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับเพื่อนและครอบครัว และในวันที่ลมหายใจของอากิใกล้หมดลง ในวันที่ฝนตกหนัก ซากุทาโร่ ได้มารับเธอและเดินทางไปยังสนามบินเพื่อจะไปท่องแดนศักดิ์สิทธ์ในออสเตรเลียให้ได้ แต่แล้วความฝันนั้นก็จบลงเมื่ออากิได้สิ้นลมล้มพับลงในขณะที่นั่งรออยู่ภายในอาคารสนามบิน... อากิ เสียชีวิตลง แต่ก่อนที่เธอจะจากไป อากิ ได้อัดเทปเสียงตัวเองไว้ถึงบุคคลอันเป็นที่รักไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ และเพื่อนๆ ของเธอ ซากุทาโร่ไม่สามารถทำใจได้ที่อากิจากถึงกระทั่งไม่ไปร่วมงานศพของเธอ เขาเก็บสิ่งของทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเทปและของต่างๆจากอากิไว้ในกล่องเหล็ก เสมือนว่าลืมเธอให้ได้ ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตได้ทำของขวัญเป็นสมุดภาพบรรยายความรู้สึกของเธอมอบไว้ให้ ซากุทาโร่ ไว้ดูต่างหน้าด้วย ซากุทาโร่ รวมทั้งพ่อและแม่ได้นำผงเถ้ากระดูกของอากิ เดินทางไปยังดินแดน อลิซ สปริงส์ ดินแดนที่ อากิ ปรารถนาที่จะไปเยือน พวกเขาได้นำผลเถ้ากระดูกของอากิไปลอยอังคารที่นั้น เว้นแต่วากุทาโร่ที่ยังคงกำมือและเก็บเถ้ากระดูกนั้นไว้กับตัวตลอดมา หลังจากนั้น ซากุทาโร่ ไปศึกษาเป็นแพทย์ โดยที่มิได้เข้ารับใบจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย สำหรับ ซากุทาโร่ ในปัจจุบันนั้นหลังจากที่เขานึกถึงภาพในอดีตทั้งหมด เขาได้ปลดปล่อยเถ้ากระดูกของอากิไปกับสายลมท่ามกลางลู่สนามวิ่งที่ๆ อากิ เคยฝึกซ้อม พร้อมกับหันกลับไปดำเนินชีวิตกับ โคบายาชิ อากิ(34 ปี) ต่อไป
ลองไปหามาอ่าน มาดูกันนะคะ..... สนุกจิงๆๆ
CREDIT : JKDRAMAS.COM

ไม่มีความคิดเห็น: